นาวินต้า พลาดกดลิงก์มิจฉาชีพ สูญเงิน 5 ล้านบาท
นาวินต้า ตัดพ้อ แค่เผลอกดลิงก์มิจฉาชีพ ที่เข้าใจว่าเป็นข่าวให้ความรู้ แต่กลายเป็นว่าถูกดูดเงินสูญ 5 ล้านบาท
นาวินต้าร์ เยาวพลกุล เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง ทั้งที่ก็มีข่าวเรื่องมิจฉาชีพดูดเงินมาตลอด แต่มาเสียท่าเพราะเผลอไปกดลิงก์ในกล่องข้อความ ที่เนื้อหาให้ความรู้ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร แค่กดลิงก์เข้าไปดู เพราะเห็นว่าเนื้อหาน่าสนใจ แต่ต่อมากลับพบว่า เงินในบัญชีหายไป 5 ล้านบาท
โดย เจ้าตัวยังบอกอีกว่า คงได้แค่ทำใจ เพราะคิดว่าคงไม่ได้คืนแน่นอน เสียดายเงินมากๆ ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหายังไงดี
สำหรับเรื่องแบบนี้ เจอแค่ครั้งเดียวเข็ดไปเลย เลยอยากจะฝากเตือนทุกคนเพราะว่าขนาดเซฟตัวเองก็ยังพลาด ถ้าต้องเสียเงินมากขนาดนี้ เอาไปทำบุญดีกว่า
ล่าสุด วันนี้ 22 ก.พ. 2567 นาวินตาร์ ก็ได้ออกมาโพสต์ผ่านโซเชียล Navin Tar ข้อความว่า “ขอบคุณภรรยาที่ยังจับมือกันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มีแต่กำลังใจ ไม่เคยปริปากพูดหรือโทษกัน คนเราล้มได้มันก็ต้องลุกขึ้นได้ ไม่เป็นไรช่างมัน สู้ๆหาเงินใหม่ ลุยยย!!!”
ดร.เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยในกรณีดังกล่าวกับผู้สื่อข่าว PPTV ว่า ตนเองไม่ทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้นแต่ขออธิบายวิธีที่คนร้ายใช้ในการดูดเงินจากมือถือเราผ่าน mobile banking ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวจะต้องมี 2-3 ส่วนประกอบ ส่วนแรกคือจะต้องมี app ของโจรที่เราดาวน์โหลดมาไว้ในเครื่องเรา การกดลิงก์ก็มีความเป็นไปได้ว่า เป็นการไปดาวโหลดแอปของโจรมาไว้ในเครื่อง โดยหลักๆแล้วแอบตัวนี้ก็จะเข้ามาควบคุมมือถือเรา มาดูข้อมูลหรือสั่งการต่างๆ ได้
ส่วนที่ 2 ที่คนร้ายจะต้องมีคือ username กับ password เพื่อเข้าไปใน mobile banking ซึ่งคนร้ายอาจจะไปเอามาจากการเข้าเว็บก่อนหน้าที่เราเคยเข้าได้ ส่วนที่ 3 การใช้ mobile banking เพื่อดูดเงินผ่านมือถือต้องมีการสแกนใบหน้า โดยเฉพาะในกรณีที่โอนเงินเกิน 50,000 บาท นี่คือองค์ประกอบทั้งหมดที่คนร้ายจะต้องใช้ในการดูดเงิน ซึ่งถ้าบอกว่าแค่กดลิงก์เข้าไปอันนี้ต้องบอกว่าไม่เคยเจอ แต่จะมีวิธีการอื่นหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ
ดร.เวทางค์ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สิ่งที่ต้องระวังอย่าไปกดลิงก์หรือดาวน์โหลด แอบพลิเคชั่นที่ต้องสงสัย เพราะหน่วยงานรัฐจะไม่ติดต่อท่านไปแบบนี้อยู่แล้ว นอกจากนั้นตอนนี้กระทรวง DE ก็มีหน่วยงานที่ เรียกว่า 1441 สำหรับคนที่มีปัญหา เราก็จะช่วยอายัดบัญชีที่ดูดเงินไป และก็มีหลายคนที่ได้เงินคืน ซึ่งข้อมูลล่าสุด เดือนม.ค. ที่ผ่านมา ก็สามารถช่วยอายัดบัญชีทันได้ถึง 50% จากที่รับแจ้ง